เคยเห็นมั้ย? ผลไม้แปลกบนโลกนี้ 

โลกของเรามีผลไม้มากมายหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีรูปร่าง สีสัน และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ท่ามกลางผลไม้เหล่านั้น ก็มีผลไม้บางชนิดที่มีลักษณะแปลกประหลาดจนหลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ผลไม้เหล่านี้อาจแปลกที่รูปร่าง สีสัน รสชาติ หรือถิ่นกำเนิด วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผลไม้ที่แปลกในโลกนี้กัน

1.คีเปล (Kepel)

ผลไม้แปลก คีเปล (Kepel)

คีเปล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร พบมากในเขตร้อนชื้น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ในประเทศไทยพบมากทางภาคใต้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและไม้สมุนไพร

ลักษณะทั่วไปของคีเปล มีดังนี้

  • ลำต้น ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้ม แตกกิ่งก้านสาขามาก
  • ใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับ รูปวงรี ปลายแหลม ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้ม
  • ดอก ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและกิ่งก้าน มีดอกย่อยหลายดอก มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอกสีขาว มีกลิ่นหอม
  • ผล ผลเป็นผลสด รูปทรงกลม สีเขียวอมเหลือง เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง เปลือกผลหนา มีเนื้อฉ่ำ รสหวาน มีกลิ่นหอม

สรรพคุณของคีเปล

  • ผล รับประทานแล้วจะทำให้เหงื่อหรือกลิ่นตัวหอมสดชื่น
  • ราก ต้มดื่มเป็นยาขับปัสสาวะ
  • เปลือก ต้มดื่มเป็นยาแก้ท้องเสีย
  • ใบ ต้มดื่มเป็นยาแก้ปวดข้อ

คีเปลมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย แก้หวัด แก้ไอ และบำรุงผิว

การปลูกคีเปล

คีเปลเป็นไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศได้ดี ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี การปลูกคีเปลสามารถทำได้ ดังนี้

  1. การเตรียมดิน ควรขุดหลุมปลูกให้กว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปผสมกับดิน
  2. การย้ายปลูก นำต้นกล้าคีเปลลงปลูกในหลุมปลูก กลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
  3. การดูแลรักษา คีเปลเป็นไม้ที่ทนต่อสภาพแล้งได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย เพียงรดน้ำให้ชุ่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเดือนละครั้ง ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เพื่อให้มีแสงแดดส่องถึงทั่วถึง

คีเปลเป็นไม้หายากและมีประโยชน์มากมาย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและไม้สมุนไพร ผลคีเปลมีกลิ่นหอมสดชื่น จึงนิยมรับประทานเพื่อดับกลิ่นตัวหรือกลิ่นเหงื่อ

2.คิวาโน (kiwano)

ผลไม้แปลก คิวาโน (kiwano)

คิวาโนคืออะไร?

คิวาโน หรือที่บางคนเรียกว่า “แตงหนาม” “แตงเขา” “ผลไม้ปลาปักเป้า” เนี่ย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis metuliferus เป็นญาติกับแตงกวาแต่มันมาไกลจากแอฟริกาใต้เลยนะ! ผลของมันจะเป็นทรงไข่ สีส้มเหลือง เวลาสุกจะมีหนามอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งลูกเหมือนเกราะเลยแหละ

คิวาโนกินได้ไหม? กินยังไง?

กินได้ แถมอร่อยด้วย! เนื้อด้านในของคิวาโนจะเป็นสีเขียวอมเหลือง มีเมล็ดสีดำเล็กๆ เหมือนแตงกวา รสชาติออกหวานอมเปรี้ยว ชุ่มฉ่ำ กินสดๆ ได้เลย หรือจะเอาไปประดับตกแต่งอาหาร เติมความแปลกใหม่ก็เริ่ด แต่ก่อนกินพี่มีทริคเด็ดมาฝาก

วิธีเลือกผลคิวาโนที่สุกกำลังดี

  • เลือกผลที่สีส้มสดใส หนามไม่แหลมคม
  • กดเบาๆ ถ้าเนื้อแน่น ไม่ยุ่ย แสดงว่าสุกกำลังดี
  • ลองดมกลิ่น หอมแบบแตงกวาผสมผลไม้จางๆ

วิธีปอกและเตรียมคิวาโน

  1. ล้างผลคิวาโนให้สะอาด
  2. ตัดขั้วทั้งสองด้าน
  3. ใช้มีดปอกเปลือกตามแนวหนามเบาๆ (ไม่ต้องปอกลึก เอาแค่หนามออก)
  4. ผ่าครึ่งลูก คว้านเมล็ดออก

ประโยชน์ของคิวาโน

  • คิวาโนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี 6 โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ประโยชน์ของคิวาโนมีดังนี้
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ วิตามินซีในคิวาโนช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่อาจทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและวิตามินบี 6 ในคิวาโนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ดี
  • ช่วยควบคุมความดันโลหิต โพแทสเซียมในคิวาโนช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
  • ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โพแทสเซียมและแมกนีเซียมในคิวาโนช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน แคลเซียมและฟอสฟอรัสในคิวาโนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • นอกจากนี้ คิวาโนยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน เป็นต้น
  • คิวาโนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ แนะนำให้รับประทานสดหรือนำไปทำเป็นน้ำผลไม้หรือแยม เป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี

3. เชอริโมยา (Cherimoya)

  1. เชอริโมยาเป็นผลไม้พื้นเมืองของอเมริกาใต้ มีลักษณะเป็นผลไม้ที่มีเปลือกสีเขียวเข้ม ผลมีรูปร่างคล้ายสาลี่ รสชาติหวานฉ่ำ เชอริโมยามีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ช่วยบำรุงสมอง บำรุงสายตา เป็นต้น

    เชอริโมยา ราชินีแห่งโภชนาการ

    • วิตามินแร่ธาตุจัดเต็ม เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
    • ไฟเบอร์สูง ดีต่อระบบขับถ่าย ลำไส้เบา สบายท้อง
    • ต้านอนุมูลอิสระ ไขมันดี อร่อยแบบไร้กังวล

    เมนูหลากชนิด เชอริโมยาเอาใจสายครีเอท

    • สดชื่นชุ่มคอ: สัปปะรดเชอริโมยาสไตล์สมูทตี้
    • หวานเย็นละมุน: ไอศกรีมเชอริโมยา โฮมเมดสุดฟิน
    • หรูหราอลังการ: เค้กเชอริโมยา ตกแต่งผลไม้ตามฤดูกาล
    • คู่ซี้กับของคาว: สลัดไก่ย่างผสมเนื้อเชอริโมยา ยิ่งกินยิ่งแซ่บ

    เคล็ดลับเด็ด เก็บเชอริโมยาให้อยู่ทน

    • เลือกเก็บตอนสุกกำลังดี: อย่ารอให้เปลือกยุบ
    • วิธีเก็บรักษา: แช่เย็น ช่วยยืดอายุได้หลายวัน
    • ตัดแต่งก่อนทาน: เลาะเมล็ด เปลือกเขียว ไม่ต้องกลัว

    เชอริโมยา มากกว่าแค่ผลไม้

    • สารพัดประโยชน์: จากเมล็ดสู่ยาแผนโบราณ
    • มนต์แห่งกลิ่นหอม: เชอริโมยาในน้ำหอมระดับโลก
    • ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์: เชอริโมยาในวรรณคดี สเปน

4.ฌาบูชีกาบา

ผลไม้แปลก ฌาบูชีกาบา (Jabuticaba)

เคยเห็นองุ่นที่ไม่ขึ้นบนเครือ แต่กลับโผล่พราวบนลำต้นกันบ้างไหม? นั่นแหละคือ ฌาบูชีกาบา (Jabuticaba) ผลไม้แปลกตา รสชาติเลิศ จากแดนบราซิล ที่จะพาคุณสัมผัสประสบการณ์การกินผลไม้สุดพิเศษ เตรียมตัวเปิดตา เปิดใจ แล้วไปตะลุยโลกของ ฌาบูชีกาบา กันเถอะ!

กำเนิดและสายพันธุ์

ฌาบูชีกาบา เป็นญาติใกล้ชิดของมะเฟือง อยู่ในวงศ์ชมพู่ พบมากในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบราซิล ปัจจุบันมีปลูกกันทั่วโลกในเขตอากาศร้อนชื้น เช่น ฟลอริดา แม้กระทั่งบ้านเรา ก็เริ่มมีคนปลูก ฌาบูชีกาบา กันมากขึ้น

รูปลักษณ์ที่แปลกตา องุ่นที่ขึ้นตามลำต้น

สิ่งที่ทำให้ ฌาบูชีกาบา โดดเด่น คือ การออกผลไม่เหมือนผลไม้ทั่วไป ผลของ ฌาบูชีกาบา จะแทงทะลุออกมาจากเปลือกตามลำต้นและกิ่งก้าน ตลอดทั้งปี! เหมือนองุ่นสีม่วงเข้ม เกาะยึดอยู่เต็มต้น น่ามองและน่าลิ้มลองสุด ๆ

รสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์

ฌาบูชีกาบา มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ชุ่มชื่น สดชื่น มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายองุ่นผสมกับแบล็กเบอร์รี่ เนื้อสัมผัสคล้ายเยลลี่ เมล็ดค่อนข้างแข็ง แต่ไม่ขม กินเพลิน โดยเฉพาะผลสุกสีม่วงเข้ม จะหวานอร่อยที่สุด

ประโยชน์ของ ฌาบูชีกาบา

ไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้น ฌาบูชีกาบา ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินซี แมงกานีส ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง

เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน

นามปากกา : จุดสมดุล