ปีหน้า เกาะกูดจะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ทั้งนักท่องเที่ยวหน้าใหม่และคนที่เคยมามาก่อน ต่างก็เลือกกลับมาพักผ่อนที่นี่เพราะความเงียบสงบและน้ำทะเลใสระดับไฮไลต์ของภาคตะวันออก ปีนี้มีสิ่งใหม่หลายอย่างให้ค้นหา ทั้งร้านอาหารเปิดใหม่ คาเฟ่ดีไซน์สวย และกิจกรรมแนวธรรมชาติที่ถูกยกระดับให้เข้าถึงง่ายขึ้น นอกจากนี้การเดินทางจากตราดสู่เกาะกูดยังสะดวกขึ้นกว่าเดิมมาก ทำให้การวางแผนทริปเป็นเรื่องง่ายและเบาสมองที่สุด หากกำลังคิดจะเที่ยวเกาะในปีนี้ บทความนี้คือคู่มือที่คุณควรอ่านก่อนเดินทาง

เส้นทางสู่เกาะกูด เดินทางง่ายขึ้นกว่าเดิม

เส้นทางสู่เกาะกูดปีนี้สะดวกขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งบริการรับส่งและรอบเรือที่เพิ่มขึ้นหลายช่วงเวลา

• Ko Kut Express, Boonsiri Ferry และ เสือดำโก (Suer Dum Ko Boat) เพิ่มรอบเรือเร็วตามสภาพอากาศ พร้อมระบบแจ้งเตือนในไลน์ออฟฟิเชียล ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้นมาก
• บริการ รถรับ–ส่งจากสนามบินตราด มีทั้งแบบ Private และ Shared Van เหมาะสำหรับคนต้องการความรวดเร็ว
• ถนนบนเกาะช่วง อ่าวตะเภา – หาดบางเบ้า ปรับผิวถนนใหม่ ขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวได้ง่ายขึ้น
  ภาพรวมคือเดินทางสบาย ลื่นไหล และไม่ต้องคอยลุ้นรอบเรือเหมือนในอดีต

ที่พักเน้นความยั่งยืนและธรรมชาติ

ปีนี้เกาะกูดมีที่พักเปิดใหม่หลายแห่ง และส่วนใหญ่เน้นการออกแบบที่เข้ากับธรรมชาติ ใช้วัสดุที่ยั่งยืนและคุมโทนความเงียบสงบเป็นหลัก เหมาะกับการพักผ่อนแบบไม่เร่งรีบ

1. The Wave Eco Resort (เปิดปี 2025) รีสอร์ตเปิดใหม่สไตล์ Minimal Tropical เน้นงานไม้และพลังงานแสงอาทิตย์ ห้องพักติดสวนพร้อมเสียงทะเลเบาๆ เหมาะกับคนต้องการความชิลเป็นพิเศษ
2. Kood Nature Escape (เปิดปลายปี 2024) รีสอร์ตเล็กๆ ที่เน้นการใช้วัสดุท้องถิ่นและการจัดพื้นที่เขียวร่มรื่น รอบๆ ที่พักมีเส้นทางเดินเล่น และโซนอ่านหนังสือสำหรับคนที่ต้องการความสงบ
3. Blue Coco Villas Phase 2 (ขยายโซนใหม่ปี 2025) โซนใหม่ของบลูโคโค่ วิลล่า ตกแต่งแนว Tropical-Luxury มีพูลส่วนตัวขนาดกำลังดี และบรรยากาศเงียบกว่าบริเวณโซนเก่า
4. Coco Horizon Beachfront (เปิดปี 2024 – รีโนเวทใหม่ทั้งหมด) รีสอร์ตดีไซน์โมเดิร์นริมชายหาดตะเภา เน้นสีเอิร์ธโทนและงานไม้ รีโนเวทใหม่ทั้งพื้นที่ ทำให้ห้องพักดูสบายตาและกว้างขึ้น
5. Serenity Forest Camp (เปิดปี 2025 – สไตล์ Glamping) สำหรับสายธรรมชาติเต็มตัว ที่นี่คือเต็นท์พักสไตล์หรู ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเบาๆ อากาศดี มีมุมดูดาวตอนกลางคืน และใช้พลังงานไฟฟ้าประหยัดพลังงานทั้งโครงการ

ร้านเปิดใหม่และคาเฟ่เกาะกูดที่มาแรง

ปีนี้เกาะกูดมีร้านใหม่ๆ เปิดเพิ่มขึ้นหลายแห่ง รวมถึงร้านเดิมที่รีโนเวทใหม่ให้สวยกว่าเดิม

 คาเฟ่ & ร้านกาแฟ

• Beach Radio Café (บีชเรดิโอ คาเฟ่) – คาเฟ่ริมทะเลสไตล์ Loft-Minimal วิวพาโนรามา เมนูเด่นคือ Coconut Americano และเค้กมะพร้าวหอมมาก
• Yellow House Café – คาเฟ่สีเหลืองสดใสบนทางไปน้ำตกคลองเจ้า เหมาะสำหรับแวะพักก่อนลุยเที่ยวธรรมชาติ
• View Point Café Ao Tapao – จุดชมวิวพร้อมเครื่องดื่มแนว Tropical เหมาะมากสำหรับถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก

 ร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด

• Mangrove Restaurant (มังก์โกรฟ) – ร้านดังของเกาะกูดริมป่าชายเลน เมนูแนะนำ ปลาหมึกแดดเดียวและยำสาหร่ายพวงองุ่น
• Chill Out Seafood (ชิลเอาท์ ซีฟู้ด) – ร้านซีฟู้ดสดที่อ่าวตะเภา จับกันวันต่อวันและราคาเข้าถึงง่าย
• Shasa Pizza – พิซซ่าเตาถ่านโฮมเมดแบบแป้งบางกรอบ เหมาะสำหรับมื้อเย็นง่ายๆ

เกาะกูดปี 2026 ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าเที่ยวที่สุดของไทย ด้วยความสมดุลระหว่างธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ ร้านอาหารและคาเฟ่ใหม่ที่ช่วยเติมสีสัน และกิจกรรมหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ พายเรือ หรือเดินป่าชมป่าชายเลน ที่สำคัญที่สุดคือการเดินทางที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิมมาก ทำให้การวางแผนทริปไม่ต้องกังวลเรื่องรอบเรือหรือการต่อรถเหมือนเมื่อก่อน อีกจุดที่ทำให้เกาะกูดพิเศษคือการร่วมมือกันของคนในพื้นที่และผู้ประกอบการในการรักษาธรรมชาติ ไม่ให้ความสวยงามถูกทำลายไปกับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปี 2026 เป็นช่วงเวลาที่ดีในการมาเยือนอย่างยิ่ง หากกำลังหาที่พักผ่อนที่เงียบจริง ทะเลสวยจริง และมีกิจกรรมครบ เกาะกูดคือคำตอบที่คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน