การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนเกาะกูด และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
รุ่งเช้าวันศุกร์ท้องฟ้าแจ่มใส ฉันและเพื่อนสนิทสามคนออกเดินทางสู่เกาะกูด จังหวัดตราด เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงการพักผ่อนริมทะเล แต่คือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้ทั้งความสุขและการช่วยรักษาธรรมชาติ เกาะกูดเป็นเกาะใหญ่ที่ยังคงความบริสุทธิ์ของป่าและน้ำทะเลใส ถือเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลตะวันออก” ที่เหมาะกับผู้รักธรรมชาติอย่างแท้จริง การเดินทางครั้งนี้เราอยากพิสูจน์ว่า การท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมทำได้ง่ายและสนุกกว่าที่คิด
-
เช้าวันแรก: พายคายัคสู่ป่าชายเลน
เมื่อถึงท่าเรือและข้ามฟากมาถึงเกาะกูด เราเลือกเข้าพักโฮมสเตย์ติดชายหาดเพื่อใกล้ชิดธรรมชาติ เสียงคลื่นกระทบฝั่งและลมทะเลอุ่นๆ ทำให้เราลืมความวุ่นวายในเมือง วันแรกเราเริ่มต้นด้วยการพายเรือคายัคเข้าสู่คลองยายกี๋ ป่าชายเลนที่เขียวชอุ่มทอดยาวเป็นกิโลเมตร การพายเรือผ่านรากไม้โกงกางที่แตกกิ่งก้านสวยงามช่วยให้เราได้ชมวิถีชีวิตสัตว์ป่าอย่างปูแสมและนกน้ำอย่างใกล้ชิด โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การได้อยู่กลางป่าชายเลนเงียบสงบ ทำให้เราตระหนักว่าการรักษาระบบนิเวศเป็นเรื่องสำคัญเพียงใด
-
บ่ายวันแรก: ดำน้ำตื้นชมโลกใต้ทะเล
ช่วงบ่ายเราออกไปดำน้ำตื้นที่อ่าวพร้าว น้ำทะเลใสจนมองเห็นฝูงปลาสีสันสดใสและปะการังที่ยังคงสมบูรณ์ เราเตรียมครีมกันแดดสูตร Reef-Safe เพื่อไม่ให้สารเคมีทำลายปะการัง และพยายามรักษาระยะห่างไม่ให้สัมผัสแนวปะการังโดยตรง เพื่อนๆ ตื่นเต้นกับปลาการ์ตูนที่ว่ายน้ำเป็นกลุ่ม และได้เรียนรู้วิธีดำน้ำอย่างปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่าเล็กน้อยที่เราทำสามารถช่วยคงความงามใต้ทะเลได้จริง
-
วันที่สอง: เดินป่าศึกษาธรรมชาติและชุมชน
เช้าวันถัดมา เราออกเดินป่าที่น้ำตกคลองยายกี๋ เส้นทางเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและเสียงนกป่าขับร้องตลอดทาง ละอองน้ำจากน้ำตกเย็นสดชื่นช่วยเพิ่มพลังให้กับเรา เด็กๆ ในหมู่บ้านเล่าตำนานเกี่ยวกับป่าและชื่อพันธุ์ไม้ต่างๆ ให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ ก่อนกลับที่พัก เราแวะตลาดชุมชน ซื้อของที่ระลึกทำมือ เช่น กระเป๋าสานและงานหัตถกรรมท้องถิ่น รายได้เหล่านี้ช่วยกระจายสู่ครอบครัวในเกาะ และยังเป็นแรงจูงใจให้ชุมชนร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อม
เราเห็นร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ชุมชนพยายามลดการใช้พลาสติกเพื่อปกป้องชายหาดและทะเล เกาะกูดจึงกลายเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวที่ทั้งสนุกและรักษ์โลกในเวลาเดียวกัน
-
บทเรียนจากเกาะกูด
สองวันที่อยู่ที่นี่ทำให้เราเข้าใจว่า การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพียงพกขวดน้ำส่วนตัว ใช้ถุงผ้า และปฏิบัติตามกฎท้องถิ่น เช่น ไม่ทิ้งขยะ ไม่เก็บเปลือกหอย ก็สามารถช่วยลดขยะและรักษาธรรมชาติได้มาก นอกจากนี้เรายังได้รู้ถึงโครงการเก็บขยะชายหาดและการปลูกป่าชายเลนที่จัดโดยคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้
ทริปเกาะกูดครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการพักผ่อน แต่เป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เราได้สัมผัสทั้งป่าชายเลน น้ำทะเล และวิถีชีวิตชุมชน พร้อมตระหนักถึงคุณค่าของการปกป้องธรรมชาติ ทุกการกระทำเล็กๆ ตั้งแต่การเลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัย ไปจนถึงการสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น ล้วนมีความหมายต่อสิ่งแวดล้อม เกาะกูดจึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คือแรงบันดาลใจให้เราเดินทางอย่างใส่ใจโลก เพื่อให้ธรรมชาติอันงดงามนี้คงอยู่กับคนรุ่นต่อไป