9 เกาะยอดฮิตในประเทศเพื่อนบ้าน คู่มือท่องเที่ยวชายหาดในเอเชีย

9 เกาะยอดฮิตในประเทศเพื่อนบ้าน คู่มือท่องเที่ยวชายหาดในเอเชีย

การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของนักเดินทางชาวไทย ด้วยการเดินทางที่สะดวกและหลากหลาย วันนี้เราขอแนะนำ 9 เกาะสวย สุดฮิต ที่คุณควรไปสัมผัสในภูมิภาคอาเซียน จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!

1. หมู่เกาะกิลิ ประเทศอินโดนีเซีย (Gili Islands)

หมู่เกาะกิลิ ตั้งอยู่ใกล้เกาะลอมบอก (Lombok) ในประเทศอินโดนีเซีย และประกอบไปด้วย 3 เกาะหลัก ได้แก่

  1. กิลิทราวางัน (Gili Trawangan) – เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีชีวิตชีวาที่สุด มีรีสอร์ท ร้านอาหาร และบาร์ริมหาดมากมาย เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสนุกสนานและกิจกรรมยามค่ำคืน
  2. กิลิเมโน (Gili Meno) – เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความเงียบสงบและโรแมนติก เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับคู่รักหรือฮันนีมูน
  3. กิลิแอร์ (Gili Air) – ผสมผสานระหว่างความสงบและความสนุก มีบรรยากาศผ่อนคลายพร้อมกิจกรรมดำน้ำที่โดดเด่น

จุดเด่นของหมู่เกาะกิลิ

  • ไม่มียานพาหนะเครื่องยนต์: เกาะทั้งสามไม่มีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ใช้การเดินเท้า จักรยาน หรือรถม้าท้องถิ่น (Cidomo) เป็นการเดินทางแทน ทำให้บรรยากาศสงบและปราศจากมลพิษ
  • โลกใต้ทะเลที่งดงาม: หมู่เกาะกิลิเป็นที่รู้จักในฐานะจุดดำน้ำและดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณจะได้พบกับเต่าทะเล แนวปะการังที่สวยงาม และปลาหลากสีสัน
  • หาดทรายขาวและน้ำทะเลใส: น้ำทะเลที่นี่ใสราวกระจกและหาดทรายขาวละเอียด เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือเล่นน้ำ

กิจกรรมที่น่าสนใจ

  • ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก: รอบเกาะมักมีจุดดำน้ำตื้นให้คุณสามารถชมเต่าทะเลและแนวปะการัง เช่น จุด Turtle Point และ Shark Point
  • ชมพระอาทิตย์ตกดิน: จุดชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะกิลิทราวางันเป็นหนึ่งในสถานที่โรแมนติกที่สุด โดยเฉพาะบริเวณชิงช้าริมทะเลที่โด่งดังบนโซเชียลมีเดีย
  • การเดินป่าและปั่นจักรยาน: คุณสามารถสำรวจเกาะได้โดยการปั่นจักรยานรอบเกาะ หรือเดินเท้าผ่านทางเส้นทางธรรมชาติ

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • เดินทางสะดวกจากบาหลี โดยใช้เรือเร็ว (Fast Boat) ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  • ควรเลือกช่วงฤดูแล้ง (เมษายน-ตุลาคม) เพื่อให้ได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่ดีที่สุด
  • แนะนำให้พักค้างคืนบนเกาะอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อสัมผัสบรรยากาศและกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

หมู่เกาะกิลิเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสายผจญภัย คนรักธรรมชาติ หรือผู้ที่มองหาความสงบเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริง

2. บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (Bali)

บาหลี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เกาะแห่งเทพเจ้า” เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลกที่มีทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และกิจกรรมที่หลากหลาย บาหลีเป็นที่รู้จักไม่เพียงเพราะชายหาดที่งดงาม แต่ยังมีภูเขาไฟ น้ำตก และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบาหลีที่น่าสนใจ

จุดเด่นของบาหลี

  • ชายหาดที่หลากหลาย: บาหลีมีชายหาดที่เหมาะกับทุกคน เช่น
    • หาดกูตา (Kuta Beach): เหมาะสำหรับนักเล่นเซิร์ฟมือใหม่และผู้ที่ชอบบรรยากาศคึกคัก
    • หาดซานูร์ (Sanur Beach): บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับครอบครัว
    • หาดนูซาดัว (Nusa Dua Beach): ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราและรีสอร์ทระดับ 5 ดาว
    • หาดอูลูวาตู (Uluwatu Beach): จุดเล่นเซิร์ฟยอดนิยมสำหรับนักเซิร์ฟระดับมืออาชีพ
  • วัฒนธรรมและประเพณีบาหลี:
    บาหลีเต็มไปด้วยวัดที่มีเอกลักษณ์และศิลปะที่งดงาม เช่น

    • วัดอูลูวาตู (Uluwatu Temple): ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงพร้อมวิวทะเลสุดตระการตา
    • วัดเบซากิห์ (Besakih Temple): วัดที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของบาหลี
    • วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ (Tirta Empul Temple): เป็นที่นิยมสำหรับพิธีกรรมชำระล้างจิตใจ
  • ธรรมชาติหลากหลาย:
    • เทือกเขาและภูเขาไฟ: เช่น ภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) ที่คุณสามารถเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
    • ทุ่งนาสวยงาม: เช่น ทุ่งนาขั้นบันไดเตกาลาลัง (Tegalalang Rice Terrace) ที่มีทิวทัศน์สีเขียวขจี
    • น้ำตก: น้ำตกเซคุมปุล (Sekumpul Waterfall) และน้ำตกกิตกิต (Gitgit Waterfall) เป็นจุดดึงดูดสำหรับคนรักธรรมชาติ

กิจกรรมยอดนิยม

  • เล่นเซิร์ฟ: บาหลีถือเป็นสวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟ โดยมีจุดเล่นเซิร์ฟหลากหลายระดับ ตั้งแต่มือใหม่ถึงมืออาชีพ
  • ดำน้ำและดำน้ำตื้น: คุณสามารถสำรวจโลกใต้น้ำที่เกาะนูซาเปอนีดา (Nusa Penida) และนูซาเล็มบองกัน (Nusa Lembongan)
  • โยคะและสปา: อูบุด (Ubud) เป็นศูนย์กลางของการฝึกโยคะและสปาที่มีชื่อเสียงระดับโลก เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งกายและใจ
  • การเดินป่าและขี่จักรยาน: สำรวจเส้นทางธรรมชาติและทุ่งนาในอูบุดหรือภูเขาไฟบาตูร์

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูแล้ง (เมษายน-ตุลาคม) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง
  • การเดินทางภายในเกาะ: ใช้บริการคนขับรถท้องถิ่นหรือเช่ารถยนต์พร้อมคนขับเพื่อความสะดวก
  • การแต่งกายเข้าเยี่ยมวัด: เตรียมโสร่ง (Sarong) หรือผ้าพันเอวสำหรับการเข้าเยี่ยมชมวัด

3. เกาะฟูโกว๊ก เวียดนาม (Phu Quoc Island)

เกาะฟูโกว๊ก หรือที่ชาวเวียดนามเรียกว่า ด๋าวฟู้ก๊วก (Đảo Phú Quốc) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ใกล้ชายแดนกัมพูชา ฟูโกว๊กเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีความงดงามทางธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก


จุดเด่นของเกาะฟูโกว๊ก

  • ชายหาดหลากหลายและงดงาม
    เกาะฟูโกว๊กมีชายหาดที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการความเงียบสงบและผู้ที่ชอบความคึกคัก เช่น

    • หาดลองบีช (Long Beach): ชายหาดยอดนิยมที่ยาวกว่า 20 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินเล่น นอนอาบแดด หรือจิบเครื่องดื่มริมทะเล
    • หาดซาย (Sao Beach): เป็นที่รู้จักในฐานะชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะ มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใส
    • หาดโอะง๋าย (Ong Lang Beach): เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว
  • ธรรมชาติและป่าเขา
    ฟูโกว๊กมีพื้นที่ป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์และเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติฟูโกว๊ก (Phu Quoc National Park) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก คุณสามารถเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมพันธุ์ไม้หายาก และสัตว์ท้องถิ่น
  • น้ำทะเลใสและกิจกรรมทางน้ำ
    น้ำทะเลรอบเกาะใสสะอาด เหมาะสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น

    • ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น: ชมแนวปะการังที่สมบูรณ์และฝูงปลาหลากสี
    • ตกปลา: นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเพื่อออกไปตกปลากลางทะเลได้
    • พายเรือคายัค: สำรวจเกาะเล็ก ๆ รอบฟูโกว๊ก

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำบนเกาะฟูโกว๊ก

  1. หมู่บ้านชาวประมงฮามนิง (Ham Ninh Fishing Village)
    สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงดั้งเดิม ชิมอาหารทะเลสดใหม่ และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
  2. ตลาดกลางคืนดิงเกา (Dinh Cau Night Market)
    ตลาดยอดนิยมสำหรับอาหารทะเล ของฝาก และขนมพื้นเมือง
  3. โรงงานน้ำปลาฟูโกว๊ก (Phu Quoc Fish Sauce Factory)
    ฟูโกว๊กมีชื่อเสียงเรื่องน้ำปลาคุณภาพสูง คุณสามารถเรียนรู้กระบวนการผลิตน้ำปลาแบบดั้งเดิม
  4. ซันเวิลด์ ฮอนทอม (Sun World Hon Thom Nature Park)
    สวนสนุกและกระเช้าลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ให้คุณชมวิวทะเลและเกาะแบบพาโนรามา

อาหารขึ้นชื่อบนเกาะฟูโกว๊ก

  • อาหารทะเลสด: หอยเม่นย่าง กุ้งเผา และปูทะเลเป็นเมนูที่ห้ามพลาด
  • เฝอ (Pho): ก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของเวียดนามที่หอมกรุ่นด้วยน้ำซุป
  • น้ำปลาฟูโกว๊ก: ลิ้มรสอาหารที่ปรุงด้วยน้ำปลาท้องถิ่นชื่อดัง

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

  • ทัวร์เกาะเล็ก ๆ: รอบเกาะฟูโกว๊กมีเกาะเล็ก ๆ หลายแห่ง เช่น เกาะฮอนแตย (Hon Tay) และ เกาะฮอนดอย (Hon Doi) ที่เหมาะสำหรับการดำน้ำและพักผ่อน
  • ชมพระอาทิตย์ตก: หาดลองบีชและหาดโอะง๋ายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
  • สปาท้องถิ่น: ผ่อนคลายด้วยการนวดและทรีตเมนต์จากสมุนไพรพื้นบ้าน

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • การเดินทาง: สามารถบินตรงจากโฮจิมินห์หรือฮานอยไปยังสนามบินฟูโกว๊ก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูแห้ง (พฤศจิกายน-เมษายน) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด น้ำทะเลใสและอากาศสบาย
  • การเตรียมตัว: เตรียมเงินสดไว้เผื่อสถานที่ที่ไม่รับบัตรเครดิต และอย่าลืมพกครีมกันแดด

4. เกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ (Cebu Island)

เกาะเซบู เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในฟิลิปปินส์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่งดงาม ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เกาะแห่งนี้เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนและผู้ที่ชอบการผจญภัย


จุดเด่นของเกาะเซบู

  • ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฟิลิปปินส์
    เซบูเป็นหนึ่งในสถานที่แรก ๆ ที่ชาวตะวันตกได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน คุณจะพบกับโบราณสถานและสถานที่สำคัญ เช่น

    • มะเจลแลนส์ ครอส (Magellan’s Cross): ไม้กางเขนที่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่นักสำรวจเฟอร์ดินานด์ มะเจลแลน นำมาตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1521
    • มหาวิหารเซบู (Cebu Metropolitan Cathedral): โบสถ์สไตล์บาโรกอันงดงามที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
  • ธรรมชาติที่น่าทึ่ง
    เซบูมีธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ชายหาดที่งดงามไปจนถึงภูเขาและน้ำตกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น

    • น้ำตกคาวาซัน (Kawasan Falls): น้ำตกชื่อดังที่มีน้ำสีฟ้าครามซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นน้ำและล่องแพไม้ไผ่
    • ทะเลสาบโอสมินา พีค (Osmeña Peak): จุดชมวิวที่สูงที่สุดในเซบู ให้คุณได้เห็นทิวทัศน์ของภูเขาและทะเล
  • ชายหาดและหมู่เกาะใกล้เคียง
    • หาดโมอัลโบอัล (Moalboal Beach): จุดดำน้ำยอดนิยมที่มีแนวปะการังสวยงามและฝูงปลาซาร์ดีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    • เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island): เป็นที่รู้จักในหมู่นักดำน้ำสำหรับการพบฉลามหัวค้อนและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ
    • เกาะบันตายัน (Bantayan Island): ชายหาดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและชมพระอาทิตย์ตก

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะเซบู

  • ดำน้ำกับฉลามวาฬ: เมืองออสลอบ (Oslob) ทางตอนใต้ของเซบูเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการดำน้ำตื้นกับฉลามวาฬ
  • ล่องแพไม้ไผ่: ที่น้ำตกคาวาซัน คุณสามารถล่องแพไม้ไผ่เพื่อสัมผัสความงดงามของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด
  • เดินป่าและสำรวจธรรมชาติ: เซบูมีเส้นทางเดินป่าหลายแห่ง เช่น เส้นทางขึ้นโอสมินา พีค ที่ท้าทายและเต็มไปด้วยวิวสวยงาม
  • แคนยอนเนียร์ริ่ง (Canyoneering): การผจญภัยสุดมันส์ที่น้ำตกคาวาซัน ซึ่งรวมถึงการกระโดดน้ำและไต่หินผ่านหุบเขา

อาหารท้องถิ่นที่ต้องลอง

  • เลชน (Lechon): หมูย่างแบบฟิลิปปินส์ที่กรอบนอกนุ่มใน เซบูขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเลชนที่ดีที่สุดในประเทศ
  • ซูทูกิล (Sutukil): อาหารทะเลสดที่คุณสามารถเลือกทำเป็นเมนูย่าง ต้ม หรือชุบซอสตามใจชอบ
  • มะม่วงเซบู: มะม่วงแห้งที่มีรสหวานหอม เป็นของฝากยอดนิยม

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำบนเกาะเซบู

  1. เกาะออลังโก (Olango Island): แหล่งดูนกที่มีนกอพยพหลากหลายสายพันธุ์
  2. วัดเต๋าเซบู (Taoist Temple): วัดสวยงามที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง พร้อมวิวของเมืองเซบู
  3. ฟอร์ทซานเปโดร (Fort San Pedro): ป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในยุคล่าอาณานิคม

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • การเดินทาง: เซบูมีสนามบินนานาชาติ (Mactan-Cebu International Airport) ที่เชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ในเอเชีย ทำให้เดินทางสะดวก
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน-พฤษภาคม) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเยี่ยมชม
  • การเตรียมตัว: หากต้องการดำน้ำกับฉลามวาฬ ควรจองล่วงหน้าเพื่อความสะดวก และเตรียมรองเท้าเดินป่าหรือรองเท้ากันน้ำสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

5. เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ (Palawan Island)

เกาะปาลาวัน ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยที่สุดในโลก ด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ น้ำทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัล และหาดทรายขาวละเอียด เกาะปาลาวันเป็นสวรรค์ของนักเดินทางที่รักธรรมชาติและการผจญภัย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ มีหมู่เกาะเล็ก ๆ รายล้อมที่งดงามไม่แพ้กัน


จุดเด่นของเกาะปาลาวัน

  • แม่น้ำใต้ดินปวยร์โต ปรินเซซา (Puerto Princesa Underground River)
    เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก แม่น้ำใต้ดินแห่งนี้ทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร ไหลผ่านถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม คุณสามารถล่องเรือเข้าไปชมความงดงามได้อย่างใกล้ชิด
  • อุทยานธรรมชาติทะเลซาบัง (Sabang Sea Park)
    บริเวณนี้มีทั้งชายหาดที่งดงามและป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและศึกษาธรรมชาติ
  • หมู่เกาะเอล นีโด (El Nido)
    จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักดำน้ำและคนรักทะเล เอล นีโดมีน้ำทะเลใสและหน้าผาหินปูนที่งดงามล้อมรอบทะเลสาบเล็ก ๆ เช่น ทะเลสาบบิ๊กลากูน (Big Lagoon) และสมอลลากูน (Small Lagoon)
  • หมู่เกาะคอรอน (Coron Islands)
    สวรรค์ของนักดำน้ำที่ต้องการสำรวจซากเรืออับปางสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และแนวปะการังที่ยังสมบูรณ์
  • ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกรบกวน
    เกาะปาลาวันเต็มไปด้วยป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาเขียวชอุ่ม และชายหาดที่เงียบสงบ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวาย

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะปาลาวัน

  • ล่องเรือในเอล นีโด
    แพ็กเกจทัวร์ล่องเรือในเอล นีโด (Tour A, B, C, D) เป็นที่นิยมมาก โดยพาคุณไปชมทะเลสาบ เกาะ และชายหาดลับที่สวยงาม
  • ดำน้ำและดำน้ำตื้น
    ปาลาวันเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก คุณสามารถสำรวจซากเรืออับปางและแนวปะการังที่มีชีวิตชีวาในคอรอน
  • ล่องแม่น้ำใต้ดิน
    แม่น้ำใต้ดินปวยร์โต ปรินเซซาเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความงามของธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบ
  • เดินป่าและปีนเขา
    ปาลาวันมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม เช่น การปีนเขาไปยังยอดเขาที่อุทยานแห่งชาติตาไต (Taytay National Park)
  • ชื่นชมพระอาทิตย์ตก
    หาดนาคาร์ปัน (Nacpan Beach) และหาดลาสคาบานาส (Las Cabanas Beach) เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาด

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

  1. หาดนาคาร์ปัน (Nacpan Beach): ชายหาดที่เงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อน
  2. ทะเลสาบบาร์ราคูดา (Barracuda Lake): น้ำใสที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูน สวรรค์ของนักดำน้ำ
  3. เกาะมาเรียนา (Mariana Island): จุดดำน้ำที่มีแนวปะการังหลากสีและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลมากมาย

อาหารขึ้นชื่อในปาลาวัน

  • กินาตัง เคนทุง (Kinilaw): อาหารทะเลดิบที่หมักด้วยน้ำมะนาวและน้ำส้มสายชู รสชาติเปรี้ยวสดชื่น
  • ลอดชอน คาโบ (Lechon Kawali): หมูกรอบทอดกรอบนอกนุ่มใน
  • ตะโฮ (Taho): ขนมหวานที่ทำจากเต้าหู้ น้ำตาล และไข่มุก

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • การเดินทาง: บินตรงจากมะนิลาไปยังสนามบินปวยร์โต ปรินเซซา หรือเอล นีโด ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน-พฤษภาคม) เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยว
  • การจองทัวร์ล่วงหน้า: หากคุณวางแผนจะล่องเรือในเอล นีโดหรือดำน้ำในคอรอน ควรจองล่วงหน้าเพื่อให้ได้ราคาที่ดี

6. เกาะค๊อกคอม หรือเกาะหัวใจมรกต ประเทศพม่า (Cock’s Comb Island)

เกาะค๊อกคอม หรือที่รู้จักกันในชื่อ เกาะหัวใจมรกต เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ใกล้กับจังหวัดระนองของไทย ความโดดเด่นของเกาะนี้อยู่ที่ ทะเลสาบรูปหัวใจ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางเกาะ ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูน ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสัมผัสถึงความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์และยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์


จุดเด่นของเกาะค๊อกคอม

  • ทะเลสาบรูปหัวใจ
    ทะเลสาบสีเขียวมรกตกลางเกาะที่มองจากมุมสูงจะเห็นเป็นรูปหัวใจชัดเจน เป็นที่มาของชื่อ “เกาะหัวใจมรกต” ความงดงามนี้เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและธรรมชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ
  • ปะการังและโลกใต้ทะเลที่สมบูรณ์
    บริเวณรอบเกาะเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่มีปะการังหลากสีสันและปลาทะเลชนิดต่าง ๆ คุณจะได้สัมผัสความงดงามของโลกใต้ทะเลที่ยังคงความบริสุทธิ์
  • ความเงียบสงบและส่วนตัว
    เกาะค๊อกคอมเป็นสถานที่ที่ไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความเงียบสงบและการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะค๊อกคอม

  1. ดำน้ำตื้นชมปะการัง
    น้ำทะเลรอบเกาะใสจนมองเห็นปะการังและปลาหลากสี คุณสามารถดำน้ำตื้นได้ใกล้ชายฝั่งโดยไม่ต้องใช้ทักษะดำน้ำลึก
  2. สำรวจทะเลสาบหัวใจมรกต
    นักท่องเที่ยวสามารถลอยตัวในทะเลสาบหัวใจมรกตได้ การเข้าไปในทะเลสาบต้องว่ายน้ำลอดผ่านช่องหินขนาดเล็ก เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นให้กับการเดินทาง
  3. ถ่ายภาพมุมสูง
    หากมีโอกาสขึ้นเรือหรือโดรน คุณจะได้ภาพถ่ายมุมสูงของทะเลสาบหัวใจที่เป็นเอกลักษณ์

วิธีการเดินทาง

  • เดินทางจากไทย
    นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเริ่มต้นจากจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ที่สุด จากนั้นนั่งเรือเร็ว (Speedboat) ข้ามไปยังเกาะค๊อกคอม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • ทัวร์จากพม่า
    หากคุณอยู่ในประเทศพม่า สามารถติดต่อทัวร์ท้องถิ่นที่ให้บริการพาเที่ยวเกาะนี้

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน-เมษายน): เป็นช่วงที่น้ำทะเลใสที่สุด ท้องฟ้าปลอดโปร่ง และเหมาะสำหรับกิจกรรมดำน้ำ
  • หลีกเลี่ยงฤดูมรสุม (พฤษภาคม-ตุลาคม): เพราะทะเลอาจมีคลื่นลมแรงและฝนตก

สิ่งที่ควรเตรียม

  • อุปกรณ์ดำน้ำตื้น: หน้ากากดำน้ำและตีนกบ หากไม่มี อาจเช่าได้จากทัวร์ที่ให้บริการ
  • ครีมกันแดด: เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างกิจกรรมกลางแจ้ง
  • กล้องถ่ายภาพใต้น้ำ: สำหรับเก็บภาพความประทับใจของโลกใต้ทะเล
  • รองเท้ารัดส้น: เพื่อการเดินบนโขดหินหรือพื้นที่เปียกได้สะดวก

ข้อควรรู้

  • การอนุรักษ์ธรรมชาติ: หลีกเลี่ยงการสัมผัสปะการังและไม่ทิ้งขยะลงทะเล
  • ความปลอดภัย: หากคุณไม่ชำนาญในการว่ายน้ำ ควรใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลา

7. เกาะนาวโอพี ประเทศพม่า (Nyaung Oo Phee)

เกาะนาวโอพี เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามันที่ตั้งอยู่ในเขตมะริด (Myeik Archipelago) ของประเทศพม่า เกาะแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ด้วยความงดงามของธรรมชาติ น้ำทะเลใสสะอาด หาดทรายขาวละเอียด และบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน


จุดเด่นของเกาะนาวโอพี

  • ชายหาดที่สวยงามและสงบเงียบ
    หาดทรายขาวละเอียดของเกาะนาวโอพีเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ชายหาดมีความเงียบสงบเพราะยังไม่พลุกพล่านเหมือนแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ
  • แนวปะการังที่สมบูรณ์แบบ
    บริเวณรอบเกาะนาวโอพีเต็มไปด้วยแนวปะการังหลากสีสันและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ทำให้ที่นี่เป็นจุดดำน้ำที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
  • ความเป็นส่วนตัว
    เกาะนาวโอพีมีรีสอร์ทเพียงไม่กี่แห่ง และบางส่วนของเกาะยังคงเป็นพื้นที่ธรรมชาติ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบ

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะนาวโอพี

  1. ดำน้ำตื้น (Snorkeling)
    นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจแนวปะการังที่สมบูรณ์และปลาหลากหลายชนิด บริเวณรอบเกาะมีน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังได้ชัดเจน
  2. ดำน้ำลึก (Scuba Diving)
    สำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ เกาะนาวโอพีมีจุดดำน้ำลึกที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเล เช่น ปลากระเบนราหูและเต่าทะเล
  3. พักผ่อนบนชายหาด
    หาดทรายขาวของเกาะเหมาะสำหรับการนั่งชมวิว เดินเล่น หรืออ่านหนังสือในบรรยากาศเงียบสงบ
  4. พายเรือคายัค
    สำรวจรอบเกาะด้วยเรือคายัค เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้คุณใกล้ชิดธรรมชาติและสัมผัสความสวยงามของน้ำทะเล
  5. เดินป่าและถ่ายภาพธรรมชาติ
    เกาะนาวโอพียังมีเส้นทางเดินป่าที่ลัดเลาะไปตามแนวต้นไม้ใหญ่และเนินเขาเล็ก ๆ คุณสามารถชมทัศนียภาพของทะเลและธรรมชาติได้จากมุมสูง

สถานที่น่าสนใจรอบเกาะ

  • จุดชมวิวเนินเขา (Hilltop Viewpoint)
    จุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นทะเลอันดามันและเกาะเล็ก ๆ โดยรอบได้แบบพาโนรามา
  • แนวปะการังสามเหลี่ยม (Coral Triangle)
    หนึ่งในจุดดำน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในบริเวณเกาะ
  • หมู่เกาะมะริด (Myeik Archipelago)
    หมู่เกาะที่ล้อมรอบเกาะนาวโอพีเป็นแหล่งดำน้ำและพักผ่อนที่น่าสนใจ คุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมเกาะอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงได้

ที่พักบนเกาะนาวโอพี

  • รีสอร์ทที่มีอยู่บนเกาะจะเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นแบบบังกะโลริมชายหาดที่มอบประสบการณ์พักผ่อนอย่างแท้จริง
  • บางแพ็กเกจที่พักรวมกิจกรรม เช่น ดำน้ำ ตกปลา และอาหารทะเลสดใหม่

วิธีการเดินทาง

  1. เริ่มต้นจากจังหวัดระนอง
    นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ต (Speedboat) จากท่าเรือจังหวัดระนองไปยังเกาะนาวโอพี ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง
  2. ทัวร์ท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ
    มีบริษัททัวร์ที่จัดการเดินทางและกิจกรรมบนเกาะนาวโอพี โดยรวมบริการอาหารและอุปกรณ์ดำน้ำ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ฤดูแห้ง (พฤศจิกายน-เมษายน): เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด น้ำทะเลใสและอากาศเย็นสบาย
  • หลีกเลี่ยงฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม): เนื่องจากมีคลื่นลมแรงและฝนตก

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • เตรียมอุปกรณ์กันแดด: เช่น หมวก แว่นกันแดด และครีมกันแดด
  • นำเงินสดติดตัว: เนื่องจากบนเกาะไม่มีบริการตู้เอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตในบางพื้นที่
  • รักษาธรรมชาติ: หลีกเลี่ยงการสัมผัสปะการังและทิ้งขยะ

8. เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย (Borneo Island)

เกาะบอร์เนียว เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งออกเป็น 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน ส่วนของมาเลเซียครอบคลุมรัฐซาบาห์ (Sabah) และรัฐซาราวัก (Sarawak) เกาะแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสวรรค์แห่งธรรมชาติ ด้วยป่าฝนเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาสูง และระบบนิเวศที่หลากหลาย


จุดเด่นของเกาะบอร์เนียว

  • ป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
    ป่าฝนบอร์เนียวมีอายุเก่าแก่กว่า 140 ล้านปี เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก เช่น อุรังอุตัง ชะนี นกเงือก และเสือโคร่งซุนดา
  • ภูเขาคินาบาลู (Mount Kinabalu)
    จุดสูงสุดของเกาะบอร์เนียวและมาเลเซีย ด้วยความสูง 4,095 เมตร เหมาะสำหรับนักปีนเขาที่ต้องการสัมผัสความท้าทายและวิวพาโนรามา
  • โลกใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์
    เกาะบอร์เนียวมีแหล่งดำน้ำระดับโลก เช่น หมู่เกาะสิปาดัน (Sipadan Island) และหมู่เกาะมาบูล (Mabul Island) ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังและสัตว์น้ำหลากชนิด
  • ชนเผ่าพื้นเมืองและวัฒนธรรมที่หลากหลาย
    บอร์เนียวเป็นบ้านของชนเผ่าพื้นเมืองหลายกลุ่ม เช่น ชาวดายัค (Dayak) และอีบัน (Iban) ที่มีวัฒนธรรมและประเพณีเฉพาะตัว

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะบอร์เนียว

  1. ปีนเขาคินาบาลู (Mount Kinabalu Trekking)
    การปีนภูเขาคินาบาลูเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่มอบประสบการณ์ท้าทายและวิวที่สวยงามของธรรมชาติ
  2. ดำน้ำและดำน้ำตื้น
    บอร์เนียวเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ จุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เกาะสิปาดัน ซึ่งติดอันดับหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก
  3. ล่องแม่น้ำคินาบาตางัน (Kinabatangan River Safari)
    ล่องเรือชมสัตว์ป่าหายาก เช่น ชะนี ลิงจมูกยาว และนกเงือก บริเวณแม่น้ำสายยาวที่สุดในซาบาห์
  4. เยี่ยมชมอุรังอุตังในศูนย์ฟื้นฟู
    ศูนย์ฟื้นฟูอุรังอุตังเซปิโลก (Sepilok Orangutan Rehabilitation Centre) ในรัฐซาบาห์ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถชมอุรังอุตังในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
  5. สำรวจถ้ำมูลู (Mulu Caves)
    ถ้ำขนาดใหญ่นี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู (Gunung Mulu National Park) ซึ่งเป็นมรดกโลกยูเนสโก ถ้ำแห่งนี้มีหินงอกหินย้อยและอุโมงค์ขนาดมหึมาที่น่าตื่นตาตื่นใจ

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ

  1. อุทยานแห่งชาติคินาบาลู (Kinabalu National Park): มรดกโลกยูเนสโกและแหล่งท่องเที่ยวที่รวมความหลากหลายทางชีวภาพ
  2. หมู่เกาะสิปาดันและมาบูล: จุดหมายยอดนิยมสำหรับนักดำน้ำจากทั่วโลก
  3. ถ้ำซาราวัก (Sarawak Chamber): ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในรัฐซาราวัก

อาหารขึ้นชื่อของบอร์เนียว

  • นาซิเลอมัก (Nasi Lemak): ข้าวหุงกะทิพร้อมเครื่องเคียง เช่น ปลาแห้ง ไข่ และซอสซัมบัล
  • ลาเมียน (Lah Mee): บะหมี่สไตล์มาเลเซียที่มีน้ำซุปรสกลมกล่อม
  • ขนมลาคซา (Laksa Sarawak): ก๋วยเตี๋ยวในน้ำซุปกะทิผสมเครื่องเทศแบบซาราวัก

เคล็ดลับสำหรับนักท่องเที่ยว

  • การเดินทาง: สนามบินหลักคือ Kota Kinabalu International Airport และ Kuching International Airport เชื่อมต่อกับหลายเมืองใหญ่ในเอเชีย
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ฤดูแห้ง (มีนาคม-ตุลาคม) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทาง
  • อุปกรณ์สำคัญ: รองเท้าปีนเขา เสื้อผ้าสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และยากันแมลง

9. เกาะสิปาดัน ประเทศมาเลเซีย (Sipadan Island)

เกาะสิปาดัน เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในทะเลเซเลเบส (Celebes Sea) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะสวรรค์ของนักดำน้ำ ด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลสีฟ้าใส และสัตว์ทะเลที่หลากหลาย เกาะสิปาดันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติและมีการจัดการที่เข้มงวดเพื่อปกป้องความงดงามของธรรมชาติ


จุดเด่นของเกาะสิปาดัน

  • โลกใต้ทะเลที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์
    สิปาดันมีความลึกใต้น้ำที่ลึกชันจากแนวปะการังน้ำตื้นไปจนถึงพื้นทะเลลึก ทำให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลากหลายชนิด เช่น เต่าทะเล ฝูงปลาบาราคูด้า ฉลาม และปลาหมึกยักษ์
  • จุดดำน้ำระดับโลก
    เกาะสิปาดันมีจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น

    • Barracuda Point: จุดที่คุณจะได้เห็นฝูงปลาบาราคูด้าว่ายเป็นวงกลมขนาดใหญ่
    • Turtle Cavern: ถ้ำใต้น้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของเต่าทะเล
    • South Point: จุดที่สามารถพบฉลามและสัตว์น้ำขนาดใหญ่
  • เขตสงวนธรรมชาติที่คงความสมบูรณ์
    เกาะสิปาดันถูกจัดให้เป็นเขตสงวนธรรมชาติและไม่มีที่พักบนเกาะเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปเช้าเย็นกลับจากที่พักบนเกาะใกล้เคียง

กิจกรรมยอดนิยมบนเกาะสิปาดัน

  1. ดำน้ำลึก (Scuba Diving)
    สิปาดันเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำมืออาชีพ ด้วยน้ำทะเลที่ใสสะอาดและความหลากหลายของสัตว์น้ำใต้ทะเล การดำน้ำลึกในสิปาดันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
  2. ดำน้ำตื้น (Snorkeling)
    แม้คุณจะไม่ได้ดำน้ำลึก แต่การดำน้ำตื้นรอบเกาะก็สามารถให้คุณชมปะการังและสัตว์น้ำได้ใกล้ชิด
  3. ถ่ายภาพธรรมชาติ
    ทัศนียภาพของเกาะสิปาดันทั้งบนและใต้น้ำเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักถ่ายภาพ
  4. ชมฝูงปลาขนาดใหญ่
    ฝูงปลาบาราคูด้าและฝูงปลานานาชนิดจะสร้างความประทับใจให้คุณอย่างแน่นอน

วิธีการเดินทาง

  1. เดินทางไปยังเมืองตาวาอู (Tawau)
    คุณสามารถบินตรงจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังสนามบินตาวาอู (Tawau Airport) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
  2. เดินทางต่อไปยังเกาะมาบูล (Mabul Island) หรือเกาะกาปาไล (Kapalai Island)
    จากสนามบินตาวาอู คุณต้องนั่งรถไปยังท่าเรือเซมปอร์นา (Semporna Jetty) จากนั้นต่อเรือสปีดโบ๊ตไปยังที่พักบนเกาะมาบูลหรือกาปาไล
  3. ไปยังเกาะสิปาดัน
    นักดำน้ำสามารถเดินทางจากที่พักไปยังเกาะสิปาดันด้วยเรือสปีดโบ๊ตแบบไปเช้าเย็นกลับ

ข้อกำหนดการเยี่ยมชม

  • จำกัดจำนวนผู้เข้าชม: สิปาดันจำกัดนักท่องเที่ยวเพียง 120 คนต่อวันเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • ต้องมีใบอนุญาต: นักท่องเที่ยวต้องขอใบอนุญาตล่วงหน้าผ่านบริษัทดำน้ำหรือรีสอร์ทที่จองไว้

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

  • ฤดูแห้ง (เมษายน-พฤศจิกายน): เป็นช่วงที่น้ำทะเลใสและเหมาะสำหรับการดำน้ำ
  • หลีกเลี่ยงฤดูฝน (ธันวาคม-มีนาคม): ทัศนวิสัยใต้น้ำอาจลดลงเนื่องจากฝนตก

สิ่งที่ควรเตรียม

  • อุปกรณ์ดำน้ำ: หากคุณมีอุปกรณ์ส่วนตัว จะสะดวกและปลอดภัยกว่า
  • ครีมกันแดดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: เพื่อปกป้องแนวปะการัง
  • เสื้อผ้ากันน้ำ: สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

ข้อควรรู้

  • ไม่มีที่พักบนเกาะสิปาดัน: นักท่องเที่ยวต้องพักบนเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมาบูล หรือเกาะกาปาไล
  • การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: ห้ามสัมผัสปะการังหรือให้อาหารสัตว์น้ำ

สรุป

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เกาะทั้ง 9 แห่งนี้คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด ดำน้ำชมปะการัง หรือสำรวจวัฒนธรรมและธรรมชาติอันหลากหลาย ลองเลือกจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคุณ แล้วเตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันเลย