สวยหล่อทะลุมิติ! ใครคือคนหน้าตาดีที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

สวยหล่อทะลุมิติ! ใครคือคนหน้าตาดีที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

คำถามนี้คงเป็นคำถามที่ใครหลายคนสงสัย เพราะประวัติศาสตร์จีนยาวนานกว่า 5,000 ปี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนี้ มีผู้คนมากมายที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ บางคนได้รับการยกย่องในด้านความสามารถ บางคนได้รับการยกย่องในด้านความดีงาม บางคนก็ได้รับการยกย่องในด้านความงาม แน่นอนว่าต้องมีผู้คนมากมายที่หน้าตาดี แต่ใครกันล่ะที่หล่อหรือสวยที่สุด?

เราจะมาสำรวจกันว่าใครคือบุคคลที่หน้าตาดีสุดในประวัติศาสตร์จีนกัน

1. พานอัน

พานอัน เป็นนักปราชญ์และนักกวีที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันตก (ค.ศ. 265-316) เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเรื่องความหล่อเหลาของเขา จนมีสำนวนจีนว่า “หล่อเหมือนพานอัน”

ประวัติ

พานอัน เกิดในปี ค.ศ. 247 ในเมืองอันฮุย เขาได้รับการศึกษาที่ดีและมีความสามารถพิเศษด้านวรรณกรรมและดนตรี เขาเริ่มทำงานรับใช้ราชสำนักในสมัยจักรพรรดิ์จิ้นอู่ และได้รับตำแหน่งสูงหลายตำแหน่ง

ความหล่อเหลา

พานอัน เป็นที่รู้จักในเรื่องความหล่อเหลาของเขา ใบหน้าของเขาถูกอธิบายว่า สง่างาม ผิวขาว ดวงตาโต จมูกโด่ง ปากเล็ก รอยยิ้มหวาน ผู้หญิงมากมายหลงใหลในความหล่อเหลาของเขา

ผลงาน

พานอันมีผลงานเขียนมากมาย ประเภทของงานเขียนมีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา ได้แก่

  • “จิ่วจูซง” – บทสวดสรรเสริญราชวงศ์จิ้น
  • “เหลียนซิงฟู่” – บทกวีพรรณนาความงามของดอกบัว
  • “ตี้ฟู่” – บทกวีพรรณนาความยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน

จุดจบ

พานอัน เสียชีวิตในปี ค.ศ. 300 ในช่วงปลายราชวงศ์จิ้นตะวันตก สาเหตุการตายของเขาไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีบางทฤษฎีที่กล่าวว่าเขาถูกสังหารโดยศัตรูทางการเมือง

มรดก

พานอัน ยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ความหล่อเหลา ความสามารถ และผลงานของเขา ยังคงเป็นที่จดจำจนถึงปัจจุบัน

เรื่องราวเกี่ยวกับความหล่อเหลาของพานอัน

  • มีการกล่าวขานว่าเวลาที่พานอันขี่รถม้าออกไปข้างนอก ผู้หญิงจะโยนผลไม้ใส่รถของเขาจนเต็ม
  • ผู้หญิงหลายคนแอบมองเขาจนล้มป่วย
  • มีตำนานเล่าว่าพานอันเคยเดินผ่านฝูงแกะ แกะตกใจจนหยุดกินหญ้าและจ้องมองเขา

2. ไซซี

ไซซี เป็นหนึ่งในสี่หญิงงามแห่งยุคชุนชิว (ประมาณ 506 ปีก่อนคริสตกาล หรือ พ.ศ. 37)

เรื่องราว

ไซซีมีชื่อเดิมว่า อี๋กวง เกิดในแคว้นเยว่ (State of Yue) เธอมีรูปโฉมงดงามจนได้รับการขนานนามว่า “มัจฉาจมวารี” หมายถึง “ความงามที่ทำให้แม้แต่ฝูงปลายังต้องจมลงสู่ใต้น้ำ”

กษัตริย์โกวเจี้ยน กษัตริย์แคว้นเยว่ ต้องการใช้ความงามของไซซีเพื่อล้มล้างแคว้นอู๋ (State of Wu) โกวเจี้ยนจึงส่งไซซีไปเป็นนางสนมของฟูชา กษัตริย์แคว้นอู๋

ด้วยความงามของไซซี ฟูชารักไซซีมาก ไซซีใช้ความงามและเล่ห์เหลี่ยมทำให้ฟูชาหลงใหล และละเลยการปกครองบ้านเมือง

ในที่สุด แคว้นเยว่ก็สามารถล้มล้างแคว้นอู๋ได้สำเร็จ

บทบาท

ไซซีมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์จีน เธอใช้ความงามเพื่อช่วยให้แคว้นเยว่ล้มล้างแคว้นอู๋

มรดก

ไซซีเป็นสัญลักษณ์ของความงามและเล่ห์เหลี่ยม เธอเป็นตัวละครที่ปรากฏในวรรณกรรมและภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง

สวยหล่อทะลุมิติ

3. เตียวเสี้ยน

เตียวเสี้ยน  เป็นตัวละครหญิงที่มีชื่อเสียงในวรรณกรรมจีน เธอปรากฏในนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก

เรื่องราว

เตียวเสี้ยนเป็นหญิงงามที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอมีฉายาว่า “จันทร์หลบโฉมสุดา” หมายถึง “ความงามที่ทำให้แม้แต่ดวงจันทร์ยังต้องหลบเลี่ยงให้”

ในนิยายสามก๊ก เตียวเสี้ยนถูกตั๋งโต๊ะ ขุนศึกทรราช นำมาเป็นนางสนม อ๋องอุ้น ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์ฮั่น วางแผนใช้เตียวเสี้ยนเพื่อล้มล้างตั๋งโต๊ะ

อ๋องอุ้นให้เตียวเสี้ยนไปเป็นนางสนมของลิโป้ ขุนพลผู้เก่งกล้า เตียวเสี้ยนใช้ความงามและเล่ห์เหลี่ยม ทำให้ลิโป้ทะเลาะกับตั๋งโต๊ะ

ในที่สุด ลิโป้ก็สังหารตั๋งโต๊ะ

บทบาท

เตียวเสี้ยนมีบทบาทสำคัญในนิยายสามก๊ก เธอช่วยอ้องอุ้นล้มล้างตั๋งโต๊ะ

จุดจบ

มีหลายฉบับเกี่ยวกับจุดจบของเตียวเสี้ยน

  • ฉบับหนึ่งกล่าวว่า เตียวเสี้ยนถูกลิโป้สังหาร
  • ฉบับหนึ่งกล่าวว่า เตียวเสี้ยนถูกโจโฉจับไป
  • ฉบับหนึ่งกล่าวว่า เตียวเสี้ยนออกบวช

มรดก

เตียวเสี้ยนเป็นตัวละครที่โด่งดังในวัฒนธรรมจีน เธอเป็นสัญลักษณ์ของความงาม เล่ห์เหลี่ยม และกลอุบาย

4.หยางกุ้ยเฟย

หยางกุ้ยเฟย หรือ เอียกุยฮุย ตามสำเนียงฮกเกี้ยน เป็นหนึ่งในสี่หญิงงามแห่งยุค ราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907)

ประวัติ

หยางกุ้ยเฟยมีชื่อเดิมว่า หยาง อฺวี้-หฺวัน เกิดในปี ค.ศ. 719 เธอมีรูปโฉมงดงามและมีความสามารถด้านดนตรีและการเต้นรำ

ความสัมพันธ์กับจักรพรรดิถังเสฺวียนจง

หยางกุ้ยเฟยเริ่มเข้ารับราชการในตำแหน่งพระสนมของจักรพรรดิถังเสฺวียนจง จักรพรรดิถังเสฺวียนจงหลงใหลในความงามและความสามารถของหยางกุ้ยเฟยมาก

อิทธิพลทางการเมือง

หยางกุ้ยเฟยมีอิทธิพลต่อจักรพรรดิถังเสฺวียนจง ญาติพี่น้องของเธอได้รับตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก

จุดจบ

ในปี ค.ศ. 756 เกิดกบฏอันลู่ซาน ทหารกบฏบุกเมืองฉางอาน จักรพรรดิถังเสฺวียนจงและข้าราชบริพารหนีออกจากเมือง ทหารกบฏขอให้จักรพรรดิถังเสฺวียนจงประหารหยางกุ้ยเฟยเพื่อเป็นการประนีประนอม จักรพรรดิถังเสฺวียนจงจำใจสั่งให้ขันทีเกา ลี่ชื่อ รัดคอหยางกุ้ยเฟยจนสิ้นชีวิต

มรดก

หยางกุ้ยเฟยเป็นหนึ่งในหญิงงามที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เธอเป็นตัวละครที่ปรากฏในวรรณกรรมและภาพยนตร์จีนหลายเรื่อง

สวยหล่อทะลุมิติ

ปัจจัยอะไรที่ทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี?

มีหลายปัจจัยที่ทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี ปัจจัยเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักดังนี้:

1. ปัจจัยทางชีววิทยาปัจจัยทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี

1.1 สัดส่วนใบหน้า

สัดส่วนใบหน้าเป็นปัจจัยทางชีววิทยาที่มีผลต่อความสวยงาม

จากการศึกษาวิจัย พบว่าใบหน้าที่มีสัดส่วนสมมาตรและอยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสม มักถูกมองว่าสวยงาม ตัวอย่างเช่น ใบหน้าที่มีความกว้างและความยาวใกล้เคียงกัน จมูกและปากอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ดวงตากลมโต

สัดส่วนใบหน้าที่ถือว่าสวยงามตามหลักคณิตศาสตร์ ได้แก่

  • อัตราส่วนความกว้างและความยาวของใบหน้า ใบหน้าที่มีความกว้างและความยาวใกล้เคียงกัน (ประมาณ 1:1.6) มักถูกมองว่าสวยงาม
  • ตำแหน่งของดวงตา ดวงตาควรอยู่ตรงกลางใบหน้า และห่างกันประมาณ 1 เท่าของความกว้างของดวงตา
  • ตำแหน่งของจมูก จมูกควรอยู่ตรงกลางใบหน้า และปลายจมูกควรอยู่ในแนวเดียวกับรูจมูก
  • ตำแหน่งของปาก ปากควรอยู่กึ่งกลางระหว่างจมูกและคาง ริมฝีปากควรมีขนาดสมมาตร
  • รูปร่างของใบหน้า ใบหน้ารูปวงรี ใบหน้ารูปไข่ และใบหน้ารูปหัวใจ มักถูกมองว่าสวยงาม

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนใบหน้าเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ลักษณะเฉพาะ สุขภาพ มาตรฐานความงาม ค่านิยมทางสังคม ความชอบส่วนตัว แรงดึงดูดใจ และการรับรู้

ดังนั้น ความงามเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงสัดส่วนใบหน้าเท่านั้น

1.2 ลักษณะเฉพาะ

ลักษณะเฉพาะของใบหน้าเป็นปัจจัยทางชีววิทยาที่ส่งผลต่อความสวยงาม ลักษณะเฉพาะเหล่านี้ ได้แก่

  • ตา ดวงตาที่มีขนาดใหญ่ โต กลมโต และมีสีสันสดใส มักถูกมองว่าสวยงาม
  • จมูก จมูกที่มีขนาดโด่ง ปลายจมูกเรียวเล็ก และรูจมูกเล็ก มักถูกมองว่าสวยงาม
  • ปาก ปากที่มีขนาดกะทัดรัด ริมฝีปากอิ่มเอิบ และสีปากสดใส มักถูกมองว่าสวยงาม
  • ผิว ผิวที่มีสีขาว เรียบเนียน กระจ่างใส ไร้สิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ มักถูกมองว่าสวยงาม
  • ผม ผมที่มีสีดำ เงางาม หนา นุ่มสลวย มักถูกมองว่าสวยงาม

อย่างไรก็ตาม ลักษณะเฉพาะของใบหน้าก็เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความสวยงาม ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สัดส่วนใบหน้า สุขภาพ มาตรฐานความงาม ค่านิยมทางสังคม ความชอบส่วนตัว และแรงดึงดูดใจ

ตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงในเรื่องลักษณะเฉพาะของใบหน้าที่สวยงาม:

  • ดิลลัน สปราวส์ นักแสดงชาวอเมริกัน
  • ลิซ่า โซเบอร์โน นักแสดงหญิงชาวฟิลิปปินส์
  • ไอยู นักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดงหญิงชาวเกาหลีใต้
  • คริส เฮมส์เวิร์ธ นักแสดงชาวออสเตรเลีย
  • สการ์เลตต์ โจแฮนสัน นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน

 

1.3 สุขภาพ

สุขภาพของใบหน้าเป็นปัจจัยทางชีววิทยาที่ส่งผลต่อความสวยงาม ใบหน้าที่มีสุขภาพดี มักมีลักษณะดังนี้:

  • ผิว ผิวที่มีสีขาว เรียบเนียน กระจ่างใส ไร้สิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ชุ่มชื้น เต่งตึง ยืดหยุ่น
  • ดวงตา ดวงตาที่สดใส เปล่งประกาย ไร้รอยคล้ำใต้ตา
  • ริมฝีปาก ริมฝีปากที่มีสีชมพู อิ่มเอิบ ไร้รอยแตก
  • เส้นผม เส้นผมที่มีสีดำ เงางาม หนา นุ่มสลวย
  • รอยยิ้ม รอยยิ้มที่สดใส แสดงถึงความสุข

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของใบหน้า:

  • พันธุกรรม พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของใบหน้า บางคนมีผิวที่แพ้ง่าย บางคนมีริ้วรอยก่อนวัย
  • การดูแลผิว การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม การทาครีมกันแดด และการดื่มน้ำส่งผลดีต่อสุขภาพของใบหน้า
  • การพักผ่อน การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส เปล่งประกาย
  • อาหาร การทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ส่งผลดีต่อสุขภาพของใบหน้า
  • ความเครียด ความเครียดส่งผลเสียต่อสุขภาพของใบหน้า ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหมองคล้ำ และสิว

ตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงในเรื่องสุขภาพของใบหน้าที่ดี:

  • จีจี้ ฮาดิด นางแบบชาวอเมริกัน
  • ลลิษา มโนบาล นักร้องชาวไทย
  • เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน
  • คริส เฮมส์เวิร์ธ นักแสดงชาวออสเตรเลีย
  • เบลล่า ฮาดิด นางแบบชาวอเมริกัน

2. ปัจจัยทางวัฒนธรรมทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี

2.1 มาตรฐานความงามของแต่ละวัฒนธรรม

แต่ละวัฒนธรรมมีมาตรฐานความงามที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

  • ในบางวัฒนธรรม ผิวสีแทนถูกมองว่าสวยงาม ในขณะที่บางวัฒนธรรม ผิวขาวถูกมองว่าสวยงาม
  • ในบางวัฒนธรรม ดวงตาโตถูกมองว่าสวยงาม ในขณะที่บางวัฒนธรรม ดวงตาตี่ถูกมองว่าสวยงาม
  • ในบางวัฒนธรรม จมูกโด่งถูกมองว่าสวยงาม ในขณะที่บางวัฒนธรรม จมูกแบนถูกมองว่าสวยงาม

2.2 ค่านิยมทางสังคมด้านความงาม

ค่านิยมทางสังคมมีผลต่อมุมมองเกี่ยวกับความงาม ตัวอย่างเช่น

  • ในบางสังคม ผู้หญิงที่มีผมยาวถูกมองว่าสวยงาม ในขณะที่บางสังคม ผู้หญิงที่มีผมสั้นถูกมองว่าสวยงาม
  • ในบางสังคม ผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อใหญ่โตถูกมองว่าสวยงาม ในขณะที่บางสังคม ผู้ชายที่มีรูปร่างผอมเพรียวถูกมองว่าสวยงาม

ตัวอย่าง:

  • ในประเทศจีนโบราณ ผู้หญิงที่มีเท้าเล็กถูกมองว่าสวยงาม ผู้หญิงที่มีเท้าใหญ่ถูกมองว่าไม่สวยงาม
  • ในประเทศญี่ปุ่น ผู้หญิงที่มีผิวขาวซีดถูกมองว่าสวยงาม ผู้หญิงที่มีผิวสีแทนถูกมองว่าไม่สวยงาม

2.3 การเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา

มาตรฐานความงามและค่านิยมทางสังคมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตัวอย่างเช่น

  • ในปัจจุบัน ผู้หญิงที่มีผมยาวหรือผมสั้นก็สามารถถูกมองว่าสวยงามได้
  • ในปัจจุบัน ผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อใหญ่โตหรือรูปร่างผอมเพรียวก็สามารถถูกมองว่าสวยงามได้

3. ปัจจัยทางจิตวิทยาทำให้คนคนหนึ่งถูกมองว่าหน้าตาดี

3.1 ความชอบส่วนตัว

  • คนเรามักชอบคนที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับคนใกล้ชิด หรือคนที่มีบุคลิกคล้ายคลึงกับเรา
  • เราอาจจะชอบคนที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับดาราหรือคนดังที่เราชื่นชอบ

3.2 แรงดึงดูดใจ

  • คนที่มีเสน่ห์ดึงดูด มักถูกมองว่าสวยงาม
  • เสน่ห์ดึงดูดมาจากหลายปัจจัย เช่น บุคลิก ทักษะการพูด การวางตัว

3.3 การรับรู้

  • การรับรู้ของเราต่อคนอื่นๆ
  • ตัวอย่างเช่น คนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อนที่ดี มักถูกมองว่าสวยงาม

3.4 การเชื่อมโยง

  • เราอาจจะเชื่อมโยงลักษณะทางกายภาพบางอย่างกับคุณสมบัติเชิงบวก
  • ตัวอย่างเช่น เราอาจจะเชื่อมโยงรอยยิ้มกับความสุข

3.5 การตีความ

  • เราอาจจะตีความพฤติกรรมของคนอื่นๆ
  • ตัวอย่างเช่น เราอาจจะคิดว่าคนที่มีหน้าตาดี

สรุป

จากการสำรวจบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าหน้าตาดีสุดในประวัติศาสตร์จีน พบว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนมีเกณฑ์ความงามที่ใกล้เคียงกัน คือ มีใบหน้าที่งดงาม ผิวพรรณที่เนียนละเอียด และมีรูปร่างที่สมส่วน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความงามเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล

เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน

นามปากกา : จุดสมดุล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *