ผู้ป่วย “ไบโพล่าร์” ไม่ใช่คนอันตราย อยู่ร่วมกันได้ แค่ต้องรักษาให้ไว
ผู้ป่วย “ไบโพล่าร์” ไม่ใช่คนอันตราย อยู่ร่วมกันได้ แค่ต้องรักษาให้ไว
โรคไบโพล่าร์ เป็นอย่างไร?
โรคไบโพล่าร์เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลียและกล้ามเนื้อหมองลงอย่างเร่งด่วน โดยส่วนใหญ่จะมีอาการที่เกี่ยวกับระบบประสาทที่ถูกทำลาย ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr (EBV) ในร่างกายของผู้ป่วย
ลักษณะอาการของโรคไบโพล่าร์
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไบโพล่าร์จะมีอาการหลักๆ ดังนี้:
อ่อนเพลีย ผู้ป่วยจะรู้สึกอ่อนเพลียและหนาวเย็นอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจมีอาการเหนื่อยหอบเมื่อทำกิจวัตรประจำวัน
ไข้ ผู้ป่วยอาจมีไข้ร่วมกับอาการหวัดเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจมีไข้สูงและยากจับตัว
อาการปวดเมื่อย ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ ทั้งในระยะเริ่มต้นของโรคและระยะภาวะเรื้อรัง
อาการทางประสาท บางผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะ ปัญหาในการเดิน หรืออาการสับสน
วิธีรักษาโรคไบโพล่าร์
การรักษาโรคไบโพล่าร์จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย อาจมีการรักษาอย่างเช่น
การพักผ่อนและการรักษาด้วยตนเอง ผู้ป่วยควรให้เวลาให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอและรับประทานอาหารที่เพิ่มพลังงานให้เพียงพอ
การรับประทานยา แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาต้านอาการปวด ลดการอักเสบ หรือยารักษาอาการปวดศีรษะ
การฟื้นฟูร่างกาย ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการฟื้นฟูร่างกายจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น กายภาพบำบัด
การรักษาทางกายภาพ การรักษาด้วยการเยี่ยมหมอนักกายภาพบำบัดอาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
โรคไบโพล่าร์ไม่ใช่อันตรายและสามารถรักษาได้ แต่ควรได้รับการตรวจสอบและรักษาโดยแพทย์เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการให้ดีที่สุด หากมีอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแปลกปลอม เช่น อาการหอบเหนื่อยรุนแรงขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับโรคไบโพล่าร์ที่สำคัญ และข้อแนะนำในการรักษา หากคุณหรือคนที่คุณรักมีอาการที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคไบโพล่าร์ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา