สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน 65 จังหวัด เจอฝนถล่มหนัก กทม. ฝนฟ้าคะนอง 70%

หัวข้อ: สภาพอากาศและความเตรียมการในการเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน

เนื้อหา

1. คำเตือนจากกรมอุตุฯ

ในวันนี้ (30 ส.ค.), กรมอุตุฯ ได้เผยแพร่คำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเผชิญกับสภาพอากาศที่มีฝนถล่มหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีลักษณะพื้นที่ลาดเชิงเขาและลุ่ม

2. ผลกระทบของสภาพอากาศแปรปรวน

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตของประชาชน ฝนที่ตกสะสมอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาและลุ่ม

3. เตรียมการให้ความรับรู้แก่ประชาชน

กรมอุตุฯ แนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีการพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักเตรียมตัวรับรู้และความรับรู้เกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วมและน้ำป่าไหล

4. คลื่นลมที่ทะเลอันดามันและอ่าวไทย

พื้นที่ทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง โดยคลื่นสูงจะมีความสูงในระดับ 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทั้งนี้จึงแนะนำให้ชาวเรือใช้ความระมัดระวังและงดการเดินเรือในบริเวณที่มีคลื่นลมค่อนข้างสูง

5. พายุไต้ฝุ่น “เซาลา” (SAOLA)

พายุไต้ฝุ่น “เซาลา” (SAOLA) ได้ถูกติดตามและคาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 1 ก.ย. 66 และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 2 – 4 ก.ย. 66

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

แนวโน้มอากาศในประเทศไทยเป็นสิ่งที่นับถือและสำคัญต่อการวางแผนกิจกรรมที่ต้องการเกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น การเดินทาง การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการเกษตรกรรม ดังนั้น เราจะมาพูดถึงพยากรณ์อากาศสำหรับแต่ละภาคของประเทศไทยในช่วงเวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

ในภาคเหนือของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยจะมีการตกฝนติดต่อกันบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-25 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 30-35 องศาเซลเซียส ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยจะมีการตกฝนติดต่อกันบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 27-34 องศาเซลเซียส ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง

ในภาคกลางของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจะมีการตกฝนติดต่อกันบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 26-28 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียส ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก

ในภาคตะวันออกของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจะมีการตกฝนติดต่อกันบริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-34 องศาเซลเซียส ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ภาคใต้ฝั่งตะวันออกของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยส่วนมากจะเกิดบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-27 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นไป ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 20-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ภาคใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยส่วนมากจะเกิดบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-27 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับจังหวัดภูเก็ตขึ้นไป ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร สำหรับจังหวัดกระบี่ลงไป ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

สำหรับเขตกรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 27-28 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียส ลมจะพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทำให้เราเห็นว่าสภาพอากาศในประเทศไทยในช่วงเวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้มีความแปรปรวนต่างๆ ระหว่างภาคและจังหวัดต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อกิจกรรมที่ต้องการเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงเวลานี้

สรุป

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในประเทศไทยจำเป็นต้องรับมือและเตรียมการอย่างเหมาะสม เราควรรับรู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากฝนตกหนักและคลื่นลมที่มีความสูง โดยการตรวจสอบข้อมูลสภาพอากาศและคำเตือนจากกรมอุตุฯ เพื่อเตรียมตัวรับรู้และป้องกันอันตรายในช่วงเวลาที่สภาพอากาศไม่แน่นอน

FAQ

  • ควรทำอย่างไรเมื่อเผชิญกับฝนตกหนัก? ควรเตรียมตัวรับรู้และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหล รวมถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ในที่ทางลุ่ม
  • การเตรียมการในการเดินทางทะเลอันดามันควรทำอย่างไร? ควรตรวจสอบคำแนะนำจากกรมอุตุฯ เกี่ยวกับสภาพอากาศทะเลและคลื่นลม หลีกเลี่ยงการเดินเรือในพื้นที่ที่มีคลื่นลมค่อนข้างสูง
  • พายุไต้ฝุ่น “เซาลา” (SAOLA) จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่? พายุไต้ฝุ่น “เซาลา” (SAOLA) ไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทยโดยตรง
  • ทำไมการตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ? การตรวจสอบสภาพอากาศจะช่วยให้เราเตรียมความพร้อมและการจัดการกับสภาพอากาศที่แปรปรวนได้เหมาะสม ทำให้เราสามารถเลือกกิจกรรมและการเดินทางที่เหมาะสม
  • ที่มาของข้อมูลสภาพอากาศมาจากที่ไหน? ข้อมูลสภาพอากาศมาจากการวิเคราะห์และคำนวณของนักวิทยาการอากาศยานและนักวิเคราะห์อุตุนิยมวิทยาในกรมอุตุฯ